Don't miss

ใครชอบดื่มน้ำเย็นต้องอ่าน ! มีน้ำเย็นเพิ่มความเสี่ยงเป็นนิ่วในไตจริงหรือ ?

By on September 2, 2018

 

น้ำเย็น

น้ำเย็น

นิ่วในไตเกิดจากอะไร ชอบดื่มน้ำเย็นจัด ดื่มน้ำน้อย ทำให้เป็นนิ่วในไตได้จริงหรือ ?

พอเห็นสังคมออนไลน์แชร์ภาพก้อนนิ่วจำนวนมากตกค้างอยู่ในไตของผู้ป่วยรายหนึ่ง โดยมีข้อความระบุว่า “มันคือนิ่วในไต เกิดจากการกินน้ำน้อยเกินไป หรือกินน้ำที่เย็นจัดบ่อย ๆ พวกแร่ธาตุต่าง ๆ เลยมารวมกันในไตจนเกิดเป็นหินแบบในรูป “ 

นิ่ว

นิ่ว

ภาพนี้ทำให้หลายคนที่ชอบดื่มน้ำเย็นรู้สึกกลัวและกังวลว่า นี่เรามีโอกาสเสี่ยงเป็นนิ่วในไตด้วยไหม ? แล้วจริง ๆ นิ่วในไตเกิดจากการชอบดื่มน้ำเย็นจัด หรือดื่มน้ำน้อยเกินไปจริงหรือไม่ กระปุกดอทคอม ขอรวบรวมข้อมูลมาชี้แจงกันค่ะ

ดื่มน้ำน้อยเสี่ยงเป็นนิ่วในไตจริงไหม ?

พูดถึงประเด็นดื่มน้ำน้อยกันก่อน เรื่องนี้เป็นความจริงค่ะ โดย อ.นพ.มนินธ์ อัศวจินตจิตร์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวผ่านรายการชัวร์ก่อนแชร์ ทางสำนักข่าวไทย ว่า คนที่ดื่มน้ำน้อยจะทำให้สารก่อนิ่วมีความเข้มข้นสูงในปัสสาวะ สุดท้ายจะเกิดการจับตัว ตกผลึกกลายเป็นก้อนนิ่วขึ้นมาได้

น้ำเย็น

น้ำเย็น

ดื่มน้ำเย็นจัดบ่อย ๆ ก็เสี่ยงนิ่วในไตด้วยหรือ ?

แต่สำหรับกรณีดื่มน้ำเย็นจัดนั้น อ.นพ.มนินธ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่เคยมีหลักฐานทางการแพทย์ว่าเป็นสาเหตุของการเกิดนิ่วในไตได้ ดังนั้นประเด็นนี้จึงไม่เป็นความจริง

เช่นเดียวกับ พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือคุณหมอผิง ที่ระบุในทวิตเตอร์ @thidakarn ว่า การดื่มน้ำเย็นไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไต ซึ่งจริง ๆ แล้วนิ่วในไตเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หลักป้องกันเบื้องต้นคือ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอทุกวัน ถ้ามีติดเชื้อทางเดินปัสสาวะควรรีบรักษา อย่าปล่อยให้เป็นเรื้อรัง ไม่รับประทานเครื่องในสัตว์หรือหน่อไม้มากจนเกินไป

แล้วนิ่วในไตเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

นิ่วในไต เป็นก้อนผลึกขนาดเล็ก ประกอบด้วยหินปูน (แคลเซียม) กับสารเคมีอื่น ๆ เช่น ออกซาเลต เป็นต้น หรือบางรายอาจจะมีขนาดใหญ่ที่เกิดจากสารตกค้างต่าง ๆ ทั้งจากสารอาหารที่เรากินเข้าไป หรือกรดบางชนิดที่ร่างกายขับออกไม่หมด เช่น กรดยูริก โดยเจ้าก้อนนิ่วนี้ไม่ได้สร้างแค่ความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียว แต่ยังไปเพิ่มอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคไตอีกด้วย

สาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วในไตมีหลายประการ เช่น เกิดจากการเสียสมดุลของสารก่อนิ่วกับสารยับยั้งนิ่ว ซึ่งปกติจะขับออกมาในปัสสาวะ ถ้าหากมีสารก่อนิ่วขับออกมากับปัสสาวะมากผิดปกติก็จะจับตัวกลายเป็นตะกอน เมื่อสะสมมาก ๆ เข้าก็จับตัวกันกลายเป็นก้อนนิ่วได้

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น แคลเซียม หรือออกซาเลตมากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดนิ่วได้ในผู้ป่วยบางราย

ปวดท้อง

ปวดท้อง

นิ่วในไต ป้องกันได้ไหม ?

นิ่วในไตสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง เช่น

- ดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากกว่าวันละ 8 แก้วหรือ 2 ลิตร เพื่อให้ร่างกายสร้างน้ำปัสสาวะตลอดเวลา จะช่วยป้องกันการเกิดนิ่วได้

- ลดอาหารบางประเภทลง เช่น เนื้อสัตว์ อาหารที่มีกรดยูริกสูง (หนังสัตว์ปีก ตับ ไต ปลาซาร์ดีน) อาหารที่มีออกซาเลตสูง (งา ผักโขม ถั่วต่าง ๆ ช็อกโกแลต และชา)

- พยายามควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้นและช่วยลดความเครียด

ทั้งนี้หากใครมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ มีอาการปวดบั้นเอวข้างใดข้างหนึ่งอย่างรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เพราะนี่คือสัญญาณเตือนของโรคนิ่วในไตได้เช่นกันค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
รายการชัวร์ก่อนแชร์
ทวิตเตอร์ @thidakarn
หน่วยปฏิบัติการวิจัยชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุลของโรคทางเมแทบอลิซึม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

You must be logged in to post a comment Login